20/08/2023

EP. 2 เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? สกรีนปริ้น vs ซับลิเมชั่น vs ดิจิตอลปริ้นท์

ตอนที่ 2 ของ ซีรีส์บทความ เทคนิคไหนเหมาะกับธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณ ? เราจะนำเสนอ 3 เทคนิคยอดนิยมที่มีคอมมูนิตี้เผยแพร่เทคนิคมากมายในแวดวงงานสกรีนคือ ประกอบไปด้วย การสกรีนปริ้น (Screen Printing) การทำซับลิเมชั่น (Sublimation) และ offset และเทคนิค ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing) สำหรับวันนี้ EP. 2 ถึงคิวที่เราจะมาต่อกันที่เทคนิคอื่น ๆ ที่เป็นทางเลือกอื่นที่น่าสนใจอย่าง ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing) อย่าง DTF และ DTG สำหรับในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ของคุณ อาจจะไม่ได้เหมาะกับเทคนิคซับลิเมชั่นที่เรานำเสนอไปแล้วใน ตอนที่ 1 หาดูได้เลยที่..

และข้อมูลต่อไปนี้คุณจะได้รับรู้ถึงวิธีการสกรีนเสื้อแบบ ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing) ที่ทันสมัย และเรียกได้ว่าตามเทรนด์ในยุคนี้ เพราะไม่ยุ่งยาก และยังได้งานคุณภาพ มีด้วยกันสองแบบที่นิยมในตอนนี้คือ DTF และ DTG ทั้งสองแบบหรือแบบไหนเหมาะสมกับแนวทางธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณ แต่ละแบบคืออะไร มีเทคนิควิธีและวัสดุที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง เช่น เครื่องพิมพ์ กระดาษรองรีด เครื่องรีดร้อน หรืออื่น ๆ รวมไปถึง ข้อดี- ข้อเสียของวิธีนี้ เอาล่ะ ไปเริ่มกันเลย..

การพิมพ์เสื้อยืดด้วยเทคโนโลยี DTF และ DTG: วิธีง่ายๆ สำหรับผู้สนใจ

ถ้าคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับการพิมพ์ลายหรือดีไซน์สวยงามลงบนเสื้อยืด และอยากทราบว่าเทคโนโลยี DTF และ DTG นั้นคืออะไร พร้อมวิธีการใช้งาน คุณมาถูกที่แล้ว! เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับทั้งสองเทคโนโลยีนี้กันเถอะ!

Digital Printing
Image by Freepik

ความหมายของ DTF Printing และ DTG Printing

DTF Printing (Direct-to-Film) หมายถึงกระบวนการพิมพ์ลายหรือดีไซน์โดยการนำหมึกพิมพ์พิเศษที่มีลักษณะเหมือนฟิล์มมาพ่นลงบนฟิล์มพิมพ์ แล้วนำฟิล์มนั้นมาแปะหรือเกาะลงบนผ้า เมื่อนำไปอบด้วยเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ หมึกพิมพ์จะถูกยับยั้งบนผ้าเสื้อ และเกาะอยู่ที่นั้น

DTG Printing (Direct-to-Garment) เป็นกระบวนการพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์พิเศษที่สามารถพิมพ์ลายหรือดีไซน์ลงบนผ้าเสื้อโดยตรง คล้ายกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์สี ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมีความละเอียดสูง

กระบวนการ DTF Printing

  1. เตรียมไฟล์ดีไซน์: ใช้โปรแกรมกราฟิกในการสร้างดีไซน์หรือลายที่ต้องการพิมพ์ แน่นอนว่าขนาดและความละเอียดของไฟล์ต้องเหมาะสมกับเสื้อที่คุณจะพิมพ์
  2. พิมพ์ลายบนฟิล์ม: ใช้เครื่องพิมพ์พิเศษพิมพ์ลายลงบนฟิล์มพิมพ์ ที่มีหมึกพิมพ์ที่เหมาะสม
  3. การทำความร้อนและการเกาะ: นำฟิล์มที่พิมพ์แล้วมาเกาะหรือแปะลงบนเสื้อ จากนั้นนำไปอบด้วยเครื่องอบที่ควบคุมอุณหภูมิและเวลา ทำให้หมึกพิมพ์เกาะที่ผ้าเสื้อ
  4. การเตรียมใช้งาน: เมื่อหมึกพิมพ์เกาะที่ผ้าเสื้อแล้ว คุณสามารถสวมใส่เสื้อได้ทันที

กระบวนการ DTG Printing

  1. เตรียมไฟล์ดีไซน์: เช่นเดียวกับ DTF Printing ใช้โปรแกรมกราฟิกในการสร้างดีไซน์หรือลายที่ต้องการพิมพ์
  2. พิมพ์ลายบนเสื้อ: ใช้เครื่องพิมพ์ DTG ในการพิมพ์ลายลงบนผ้าเสื้อโดยตรง มักมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลายหรือดีไซน์เกิดความคมชัดและสวยงาม
  3. การทำความร้อนและการแห้ง: นำผ้าเสื้อที่พิมพ์ลายเสร็จแล้วนำไปอบด้วยเครื่องอบเพื่อให้หมึกพิมพ์แห้งและยับยั้งอยู่ที่ผ้าเสื้อ
  4. การเตรียมใช้งาน: เมื่อผ้าเสื้อแห้งแล้ว คุณสามารถสวมใส่ได้ทันที

DTF vs DTG

ไม่ว่าจะเลือก DTF Printing หรือ DTG Printing ทั้งสองวิธีนี้เพื่อพิมพ์ลายหรือดีไซน์บนเสื้อยืด คุณจะได้ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและสมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือคู่มือการใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Digital Printing
Image by usertrmk on Freepik

วัสดุที่ต้องใช้สำหรับการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยี DTF:

  1. เครื่องพิมพ์ DTF: เครื่องพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในกระบวนการ DTF printing โดยสามารถรับมือกับหมึกและฟิล์มที่ใช้ในกระบวนการได้
  2. หมึก DTF: หมึก DTF คุณภาพสูงที่เข้ากันได้กับเครื่องพิมพ์ DTF ของคุณ เป็นหมึกที่ออกสู่ผ้าได้ในกระบวนการเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ
  3. ฟิล์ม DTF: ฟิล์ม DTF ที่เฉพาะเจาะจงมาใช้เป็นตัวพกพาหมึก หมึกจะถูกพิมพ์ลงบนฟิล์มและฟิล์มจะถูกแปะลงบนผ้าด้วยเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ
  4. สารก่อนพิมพ์ (Pre-Treatment Solution): สารก่อนพิมพ์ที่ใช้ทาลงผ้าก่อนการพิมพ์เพื่อเพิ่มความยึดเหนียวและความสดใสให้กับหมึก ช่วยให้หมึกยึดเนื้อผ้าได้ดีมากขึ้น
  5. เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Heat Press Machine): เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิที่ใช้ในกระบวนการแปะฟิล์ม DTF ลงบนผ้า สร้างความร้อนและแรงดันเพื่อให้หมึกยึดเนื้อผ้าได้เหมาะสม
  6. เทปกันรั้ว (Masking Tape): เทปกันรั้วที่ใช้เพื่อยึดฟิล์ม DTF ลงบนผ้าก่อนการอบ
  7. กระดาษปล่อย (Release Paper): กระดาษปล่อยที่วางไว้ระหว่างแผ่นรองความร้อนและฟิล์ม DTF เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกยึดกับแผ่นรองความร้อน
  8. แปรงหรือกันรอย (Brush or Roller): แปรงหรือกันรอยที่ใช้ทาสารก่อนพิมพ์ลงผ้าอย่างสม่ำเสมอ
  9. เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Curing Oven or Heat Press): หลังจากที่ฟิล์มถูกแปะลงบนผ้าแล้ว คุณอาจจะต้องใช้เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิเพื่อประสานและยึดหมึกลงบนผ้าให้แข็งแรง

วัสดุที่ต้องใช้สำหรับการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยี DTG:

  1. เครื่องพิมพ์ DTG: เครื่องพิมพ์โดยตรงบนผ้าที่ออกแบบมาเพื่อพิมพ์ลงผ้า ควรเข้ากันได้กับประเภทผ้าที่คุณใช้
  2. หมึก DTG: หมึกพิมพ์เฉพาะสำหรับเทคโนโลยี DTG ออกแบบมาเพื่อยึดผ้าและให้สีสันสดใส
  3. สารก่อนพิมพ์ (Pretreatment Solution): เหมือนกับกระบวนการ DTF การทาสารก่อนพิมพ์ที่ใช้เพื่อเตรียมผ้าก่อนการพิมพ์ ช่วยให้หมึกยึดเนื้อผ้าได้ดีและสีสันสดใส
  4. เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Heat Press Machine): บางเครื่องพิมพ์ DTG อาจต้องใช้เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิเพื่อประสานหมึกให้แข็งแรงบนผ้าหลังจากการพิมพ์เพื่อให้หมึกยึดกับผ้าได้อย่างแน่นหนาและคงทนในระหว่างการซัก
  5. เครื่องควบคุมความชื้น (Humidifier): บางสภาพแวดล้อมอาจมีการควบคุมความชื้นเพื่อรักษาระดับความชื้นที่เหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มการดูดซึมหมึกเข้ากับผ้าได้
  6. แผ่นรองผ้า (Textile Platens): เป็นชิ้นส่วนแนบพิเศษสำหรับเครื่องพิมพ์ DTG ที่ช่วยยึดผ้าให้เหนือหน้าเครื่องพิมพ์ เพื่อให้ผ้าคงความราบและตึงเพื่อให้การพิมพ์เป็นไปอย่างแม่นยำ
  7. อุปกรณ์ทำความสะอาด: การทำความสะอาดและการบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์ DTG เป็นสิ่งสำคัญ อาจจำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาด สว็อบ และผ้าไม่เป่าใช้
  8. เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Curing Oven or Heat Press) (ตัวเลือก): ขึ้นอยู่กับชนิดของหมึกและผ้าที่ใช้ เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิอาจจะต้องใช้หลังจากการพิมพ์เพื่อประสานหมึกให้แข็งแรงบนผ้า

โปรดจำไว้ว่าวัสดุที่คุณต้องใช้สามารถแตกต่างกันไปตามแบรนด์และโมเดลของเครื่องพิมพ์ที่คุณใช้ ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและคู่มือการใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Digital Printing
Image by vecstock on Freepik

สรุป Digital Printing ดีหรือไม่

การพิมพ์เสื้อยืดด้วยเทคโนโลยี DTF และ DTG คือวิธีที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเสื้อยืดที่มีลายหรือดีไซน์ที่สวยงามและพิเศษ ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและทดลองกับวัตถุอย่างหลากหลายก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของคุณและมีคุณภาพสูงสุด อย่างสำคัญอย่าลืมเพลิดเพลินกับกระบวนการสร้างสรรค์และกลายเป็นนักออกแบบเสื้อยืดที่เก่งได้เอง!

Credit Cover Image : Image by rawpixel.com on Freepik

กระดาษรองรีด, สาระทั่วไป, เครื่องรีดร้อน
29/07/2023

EP. 1 เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? สกรีนปริ้น vs ซับลิเมชั่น vs ดิจิตอลปริ้นท์

ตอนที่ 1 ของ ซีรีส์บทความ เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? เราจะนำเสนอ 3 เทคนิคยอดนิยมที่มีคอมมูนิตี้เผยแพร่เทคนิคมากมายในแวดวงงานสกรีนคือ ประกอบไปด้วย การสกรีนปริ้น (Screen Printing) การทำซับลิเมชั่น (Sublimation) และ offset และเทคนิคสุดท้าย ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing)

และสำหรับ EP. 1 นี้เราจะมาเริ่มกันที่ เทคนิคที่เราชำนาญที่สุดคือ เทคนิคซับลิเมชั่น นั่นเอง ! และข้อมูลต่อไปนี้คุณจะได้รับรู้ถึงวิธีการสกรีนเสื้อแบบซับลิเมชั่น ประโยชน์ของเทคนิคนี้ เพื่อที่คุณจะได้พิจารณาว่าเหมาะสมกับแนวทางธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณหรือไม่ มีวัสดุที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง เช่น กระดาษซับลิเมชั่น หมึกซับลิเมชั่น เป็นต้น ขาดไม่ได้คือข้อดี- ข้อเสียของเทคนิคซับลิเมชั่น เพื่อที่คุณจะได้เปรียบเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ เพื่อประเมินความคุ้มทุน เอาล่ะ.. จะช้าอยู่ทำไม !

เทคนิคซับลิเมชั่น
Image by vecstock on Freepik

เริ่มทำความรู้จักกับวิธีการระเหิด (Sublimation Method) เป็นอย่างแรก

วิธีการซับลิเมชั่น (Sublimation) หรือที่เรียกกันว่า Sublimation printing เป็นวิธีการพิมพ์ภาพหรือลายลงบนผ้าหรือวัตถุต่าง ๆ ที่ไม่มีขี้ผึ้ง ด้วยการใช้ความร้อนและความดันเพื่อให้หมึกหรือสารสีแปลงเป็นก๊าซโดยตรง ทำให้สามารถผสมผสานกับพื้นผิวของวัตถุได้อย่างดี และทำให้ภาพหรือลายที่ถูกพิมพ์อยู่เกาะอยู่ติดอยู่กับวัตถุนั้นๆ โดยที่ไม่ทำให้สีหรือลายตกค้างที่ผิวของวัตถุ

การทำ Sublimation (Methodology):

  1. การเตรียมวัตถุ: ในขั้นตอนแรกคือการเตรียมวัตถุที่ต้องการพิมพ์ ซึ่งสามารถเป็นผ้า สิ่งทอ แก้ว กระดาษ หรือวัตถุอื่นๆ ที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับการรับสีแบบ Sublimation ให้พร้อมสำหรับกระบวนการต่อไป
  2. การออกแบบภาพ: ในขั้นตอนถัดมาคือการออกแบบภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันที่สามารถสร้างลายละเอียดได้ตามความต้องการ
  3. การพิมพ์ภาพ: เมื่อมีภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ก็นำมาใส่ในเครื่องพิมพ์ Sublimation ที่มาพร้อมกับหมึก Sublimation หรือสี Sublimation และตั้งค่าการพิมพ์ตามความต้องการ
  4. กระบวนการ Sublimation: เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงาน ความร้อนและความดันจะทำให้หมึก Sublimation หรือสีแปลงเป็นก๊าซ และเจือจางเข้ากับเนื้อผ้าหรือวัตถุที่เตรียมไว้ โดยการเกาะกลบเนื้อผ้าหรือวัตถุ นำภาพหรือลายเข้าไปก่อน
  5. การเย็บและเตรียมผลิตภัณฑ์: เมื่อกระบวนการ Sublimation เสร็จสิ้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะต้องเย็บและเตรียมให้พร้อมใช้งาน เช่น ผ้าอาบน้ำที่พิมพ์ลาย ก็จะต้องเย็บขอบให้เรียบร้อย

วิธีการ Sublimation (How-to):

  1. เลือกวัตถุ: เลือกวัตถุที่ต้องการพิมพ์ลาย ที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ Sublimation ได้ เช่น ผ้าอาบน้ำ แก้ว แผ่นโลหะ หรือซับใน ที่มีโครงสร้างพอดีกับการส่งออกความร้อนและกดอย่างเหมาะสม
  2. ออกแบบภาพ: ใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อสร้างภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์ ควรคำนึงถึงขนาดและความละเอียดของวัตถุที่จะพิมพ์ เพื่อให้ภาพที่ได้มีความคมชัด
  3. พิมพ์ภาพ: นำภาพที่ออกแบบไว้ไปใส่ในเครื่องพิมพ์ Sublimation และตั้งค่าการพิมพ์ให้เหมาะสม โดยควรทดสอบให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์ Sublimation ได้รับความเรียบร้อยและใช้หมึก Sublimation หรือสี Sublimation ที่เหมาะสมสำหรับวัตถุที่คุณต้องการพิมพ์ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบการตั้งค่าอื่นๆ เช่น อุณหภูมิ ระยะเวลา และความดันเพื่อให้ความสวยงามของภาพเป็นอย่างดี
  4. การทำ Sublimation: เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงาน ความร้อนที่สร้างขึ้นจะทำให้หมึกหรือสี Sublimation แปลงเป็นก๊าซและซึมลงไปในเนื้อผ้าหรือวัตถุ ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น การเพิ่มความดันจะช่วยให้กระบวนการนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและเสถียรภาพ
  5. ผลิตภัณฑ์ที่ได้: เมื่อกระบวนการ Sublimation เสร็จสิ้น คุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์อยู่เกาะกับวัตถุ อย่างเช่น ผ้าอาบน้ำที่มีลายสวยงาม แก้วที่มีภาพสีสัน หรือกระดาษลายเก๋ๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีความสวยงามและทนทาน

ผลิดภัณฑ์ที่ได้จากเทคนิคนี้

การทำ Sublimation ส่วนใหญ่พบได้กับธุรกิจสกรีนเสื้อ แต่จริง ๆ สามารถใช้กับวัตถุหลากหลายชนิดที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ ดังนี้:

  1. ผ้าอาบน้ำ: ผ้าอาบน้ำที่มีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ และโพลีเอสเตอร์พันธุ์ธรรมชนิดใดก็ได้ (polyester) เป็นวัตถุที่นิยมใช้ในการทำ Sublimation printing เนื่องจากสามารถรับสี Sublimation และให้ความคมชัดของภาพได้ดี
  2. เสื้อผ้าและเนื้อผ้าสำเร็จรูป: เสื้อผ้าและเนื้อผ้าที่ทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์หรือผ้าส่วนผสมที่มีความเหมาะสมกับ Sublimation สามารถนำมาใช้พิมพ์ลายหรือภาพได้
  3. แก้ว: แก้วที่มีผิวขาวและเนื้อที่ทำจากเซรามิกหรือแก้วที่เหมาะสำหรับ Sublimation สามารถใช้พิมพ์ลายหรือภาพบนพื้นผิวได้
  4. แผ่นโลหะ: แผ่นโลหะที่ไม่มีผิวขัดหรือเคลือบทางเคมีสามารถนำมาใช้สำหรับ Sublimation printing และพิมพ์ลายหรือภาพลงบนพื้นผิวได้
  5. กระดาษ: กระดาษที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับรับสี Sublimation สามารถนำมาใช้พิมพ์ลายหรือภาพได้
  6. โลหะของที่อื่นๆ: ที่แสดงอยู่ข้างต้นเป็นตัวอย่างของวัตถุที่สามารถใช้ Sublimation ได้ แต่ยังมีวัตถุอื่นๆ ที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยวิธีนี้ เช่น กระเบื้องโลหะ และอื่นๆ

ต้องเตรียมวัสดุอะไรบ้างก่อนปฏิบัติการ

ก่อนที่คุณจะดำเนินการ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ในกระบวนการซับลิเมชั่น นั้นจำเป็นต้องเตรียมวัตถุและอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้:

  1. วัตถุที่จะพิมพ์: เลือกวัตถุที่ต้องการพิมพ์ลายหรือภาพ ที่มีผิวที่เหมาะสมกับกระบวนการซับลิเมชั่น เช่น ผ้าอาบน้ำ, เสื้อผ้า, แก้ว, แผ่นโลหะ, กระดาษ, หรือวัตถุอื่นๆ ที่มีผิวที่ไม่มีขี้ผึ้งและสามารถรับสีซับลิเมชั่น ได้ดี
  2. ลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์: ใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อสร้างลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์ลงบนวัตถุ เตรียมไฟล์ลายหรือภาพให้มีขนาดและความละเอียดที่เหมาะสมกับขนาดของวัตถุที่จะพิมพ์
  3. เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น: ใช้เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น ที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงามและความคมชัดสูง
  4. หมึกซับลิเมชั่น: ใช้หมึกซับลิเมชั่น ที่เหมาะสมกับเครื่องพิมพ์และวัตถุที่จะพิมพ์ หมึกซับลิเมชั่น จะต้องมีคุณภาพที่ดีและสามารถซึมลงไปในวัตถุได้
  5. Heat Press Machine (เครื่องอบ): หลังจากที่พิมพ์ลายหรือภาพลงบนกระดาษซับลิเมชั่น แล้ว จำเป็นต้องใช้ Heat Press Machine เพื่อกดหมึกซับลิเมชั่น ซึ่งอยู่บนกระดาษเข้าไปในวัตถุ โดยให้ความร้อนและความดันที่เหมาะสม อย่าลืมเอากระดาษรองรีดรองก่อนเสมอ
  6. กระดาษซับลิเมชั่น: ใช้กระดาษซับลิเมชั่น เพื่อพิมพ์ลายหรือภาพจากเครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น และนำไปใช้กับ Heat Press Machine เพื่อกดหมึกซับลิเมชั่น เข้ากับวัตถุ
  7. กรรไกรและสกรูไล่: ใช้กรรไกรในกระบวนการตัดกระดาษซับลิเมชั่น เพื่อให้ตรงกับขนาดของวัตถุที่จะพิมพ์ และใช้สกรูไล่ในกระบวนการควบคุมความร้อนและความดันของ Heat Press Machine
  8. ผ้าทิชชู่หรือผ้าเช็ดมือ: ใช้ผ้าทิชชู่หรือผ้าเช็ดมือเพื่อทำความสะอาดผิวของวัตถุ ก่อนที่จะใส่กระดาษซับลิเมชั่น และนำเข้า Heat Press Machine
  9. อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ: ควรมีอุปกรณ์ในการควบคุมอุณหภูมิของ Heat Press Machine เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการซับลิเมชั่น
  10. ตัวอย่าง (Test Sample): ควรมีวัตถุทดสอบเพื่อทดลองพิมพ์ลายหรือภาพแรกครั้ง โดยใช้กระดาษซับลิเมชั่น เป็นตัวอย่าง จะช่วยให้คุณตรวจสอบความถูกต้องของลายหรือภาพก่อนที่จะทำการพิมพ์บนวัตถุจริง
  11. เครื่องควบคุมอุณหภูมิและเวลา (Thermometer and Timer): ควรใช้เครื่องควบคุมอุณหภูมิและเวลาเพื่อตรวจสอบและปรับอุณหภูมิและเวลาในกระบวนการ Sublimation ให้ตรงตามข้อมูลที่แนะนำของผู้ผลิตหรือสูตรทดสอบของคุณ
  12. แผ่นห่อหุ้ม (Teflon Sheet): ใช้แผ่นห่อหุ้ม (Teflon sheet) เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกซับลิเมชั่น ซึมเข้าไปยับยั้งที่ผิวเครื่องพิมพ์และ Heat Press Machine
  13. บรรจุภัณฑ์: หลังจากที่กระบวนการซับลิเมชั่น เสร็จสิ้น ควรมีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมในการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายหรือการลอกค้าง
  14. แห้งในที่มีระบบระบายอากาศ (Well-ventilated Drying Area): หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ได้รับการพิมพ์และหมึกหรือสี Sublimation ได้ถูกกดเข้ากับวัตถุ ควรมีพื้นที่ในการแห้งที่มีระบบระบายอากาศดี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์แห้งและมีกลิ่นที่ไม่ค้างคา
  15. ความระมัดระวังและความปลอดภัย: ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการความระมัดระวังและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการซับลิเมชั่น เช่น ใช้แว่นตาป้องกันแสง, สวมเสื้อผ้าป้องกันความร้อน, และใช้เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิอย่างถูกต้อง
หมึกซับลิเมชั่น
Image by Freepik

ข้อดีและข้อเสียของวิธีการ Sublimation (Sublimation Method)

ข้อดี:

  1. คุณภาพระดับสูง: กระบวนการ Sublimation สามารถให้คุณภาพภาพที่มีความละเอียดและความคมชัดสูง ซึ่งทำให้ภาพหรือลายที่พิมพ์อยู่เกาะกับวัตถุด้วยความคมชัดและสวยงามมากที่สุด
  2. ระบบสีที่นุ่มนวล: หมึกหรือสี Sublimation ที่ใช้ในกระบวนการนี้จะละลายและซึมลงในเนื้อผ้าหรือวัตถุอย่างเนียนนวล ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของลักษณะเนื้อผ้า หรือวัตถุและไม่เกิดความหยาบคายหรือขี้ผึ้ง
  3. ลายสีทนทาน: ภาพหรือลายที่พิมพ์ด้วยวิธี Sublimation จะทนทานต่อการล้างของน้ำและแสงแดด ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกิจกรรมกลางแจ้งหรือการใช้งานที่ต้องการความคงทนในระยะยาว
  4. สีที่ชัดเจนและสดใส: การพิมพ์ด้วย Sublimation ทำให้สีที่ได้มีความสว่างและสดใส ซึ่งทำให้ภาพหรือลายที่พิมพ์ดูน่าสนใจและเป็นมิตรต่อตา
  5. ความหลากหลาย: Sublimation printing สามารถพิมพ์ภาพหรือลายที่มีความซับซ้อนและรายละเอียดสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ด้วยวิธีนี้

ข้อเสีย:

  1. ค่าใช้จ่ายสูง: กระบวนการ Sublimation มีค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเครื่องพิมพ์ Sublimation, หมึกหรือสี Sublimation, และวัตถุที่พิมพ์ ทำให้การดำเนินการนี้มีความให้เสียเปรียบกว่าวิธีการพิมพ์อื่นๆ
  2. จำกัดวัตถุที่ใช้พิมพ์: การทำ Sublimation จำกัดต้องใช้วัตถุที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ ซึ่งอาจจำกัดความหลากหลายในการเลือกวัตถุที่พิมพ์
  3. ความซับซ้อนในกระบวนการ: กระบวนการ Sublimation มีขั้นตอนในการเตรียมวัตถุและควบคุมความร้อนและความดันในการพิมพ์ ซึ่งอาจต้องใช้ความชำนาญและความรอบคอบในการดำเนินการ
  4. จำกัดในการพิมพ์สี: หมึกหรือสี Sublimation มีความจำกัดในสีบางสีที่อาจไม่สามารถทำให้ได้เหมือนกับสีที่แท้จริง ซึ่งอาจมีผลต่อความสวยงามของภาพหรือลายที่พิมพ์
  5. เวลาในการดำเนินการ: การพิมพ์ด้วย Sublimation อาจใช้เวลานานกว่าวิธีการอื่นๆ เนื่องจากต้องรอให้หมึกหรือสี Sublimation ซึมลงไปในวัตถุในระหว่างกระบวนการ

Key Takeaways

เนื่องจากกระบวนการ Sublimation เป็นกระบวนการที่ใช้ความร้อนและความดัน หากคุณเลือกวิธีนี้ใน ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ คุณจึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อป้องกันอาจเกิดอันตรายจากความร้อนที่เกิดขึ้น และควรให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้เครื่องพิมพ์และการจัดเก็บสี Sublimation เสมอ

กระบวนการ Sublimation เป็นวิธีการที่น่าสนุกและน่าสนใจในการพิมพ์ภาพหรือลายลงบนผ้าและวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้เองหรือเป็นของขวัญ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าสวยงามและไม่เหมือนใคร ถ้าคุณต้องการลองทำ Sublimation กับวัตถุโดยตั้งใจในการศึกษาและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ก็มั่นใจได้ว่าคุณจะสร้างสรรค์ผลงานที่น่าประทับใจมากมาย!

Credit Image : Image by vecstock on Freepik

Some of article came by : https://medium.com/@clashgraphicsga/benefits-screen-print-sublimation-offset-digital-d4ea5e57c956

สาระทั่วไป
26/06/2023

10 AI วาดรูป เปลี่ยนภาพในจินตนาการเป็น Digital Arts

ความล้ำของเทคโนโลยี AI ต่างพัฒนาในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อให้โลกได้ก้าวเดินสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม และวันนี้ก็ได้มาถึง วันที่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สามารถวาดรูปได้ นับเป็นปรากฏการณ์ที่มาสั่นสะเทือนวงการสายอาร์ต เพราะหลักการของปัญญาประดิษฐ์นี้ เพียงแค่กรอกข้อมูลในสิ่งที่ต้องการ ก็จะสามารถรังสรรค์งานศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที แน่นอนว่างานภาพนั้นสามารถเทียบเท่ากับนักวาดมืออาชีพได้เลย ซึ่งหากคุณอยู่ในวงการสกรีนเสื้อ หรืองานซับลิเมชั่น นี่อาจเป็นอีกช่องทางในการขยายงานของคุณในวงกว้าง ด้วยการให้ AI ช่วยออกแบบลายสกรีนเสื้อก่อนสั่งพิมพ์ลงบนกระดาษซับลิเมชั่นก็ทำได้สวยงามและรวดเร็วทีเดียว ! น่าสนใจไม่น้อยใช่มั๊ยละ.. ในบทความนี้ทางเราจะพาคุณไปรู้จัก 10 AI วาดรูป ที่ดีที่สุด เปลี่ยนภาพจิตนาการให้เป็นภาพวาดในไม่กี่นาที

10 อันดับ AI วาดรูป ที่ดีที่สุดที่ใครหลายคนเลือกใช้

1. Images.ai

สำหรับเว็บแรกที่จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันก็คือ Images.ai ที่ถือว่าเป็นเว็บที่สามารถสร้างสรรค์ได้ง่ายที่สุด เพราะเพียงแค่คุณเลือกขนาดภาพตามที่ต้องการ พิมพ์ข้อความของภาพที่ต้องการ จากนั้น AI ก็จะออกแบบภาพมาให้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที ซึ่งเว็บนี้จะมีการพัฒนาเสมอๆ เพื่อสร้างขอบเขตการสร้างสรรค์งานได้ไกลมากยิ่งกว่าเก่า

2. GetIMG

ถ้าอยากจะสร้างสรรค์งานภาพแบบละเอียดและเจาะลึกทุกอณู เพื่อให้งานภาพของคุณให้ดูดีที่สุด การเลือกใช้ AI วาดรูป อย่าง GetIMG ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างสรรค์งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันปรับแต่งภาพ เสริมหรือลบออกบางส่วน โดยโมเดลของเจ้าตัวนี้มีถึง 20 อย่าง ทำให้งานมีความหลากหลายและคุณสามารถสร้าง 10 ภาพภายในไม่กี่วินาที และยังสามารถปรับสไตล์ให้เข้ากับภาพของคุณได้อีกด้วย 

3. Shutterstock

อย่างเว็บ Shutterstock เว็บแหล่งรวมรูปขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้คนทำการอัปโหลดรูปภาพขายกันอยู่ตลอด ก็ได้มีการวิวัฒนาการตาม AI สายอารต์ตเหมือนของเว็บอื่น ๆ โดยฟังก์ชันภายในเว็บนี้จะไม่ต่างจากเว็บอื่น ๆ เพียงแค่พิมพ์ในสิ่งที่ต้องการ ตัวเว็บก็จะนำเสนอภาพ จากนั้นคุณก็สามารถเลือกแล้วนำมาปรับแต่ง หรือปรับให้กลายเป็นสไตล์ของคุณได้

4. Artbreeder

ในส่วนของเว็บที่ถือว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ Artbreeder ที่จะสร้างงาน AI ภาพวาดได้หลากหลายสไตล์อย่างเช่น ภาพทิวทัศน์ ภาพอนิเมชั่น ภาพเหมือน และอื่น ๆ อีกมากมาย และแน่นอนว่าตัวเว็บนี้เมื่อมีการออกแบบแล้ว สามารถเปลี่ยนในบางจุดได้อีกด้วย เพื่อที่จะสร้างสรรค์งานภาพที่ดีที่สุดให้กับคุณ ตัวเว็บนี้จะมีการใช้ฟรี คุณสามารถเลือกภาพตามที่คุณต้องการได้

5. Stablecog

เว็บ Stablecog ก็นับว่าเป็นเว็บที่สามารถสร้างงานสังสรรค์ได้ โดยงานที่สร้างสรรค์ออกมานั้นเน้นภาพเสมือนจริงเป็นหลัก สามารถใช้งานง่ายไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เหมาะกับมือใหม่หัดลองในการเล่นเป็นอย่างมาก และที่สำคัญยังมีการใช้งานที่ฟรีอีกด้วย

6. NightCafe

เว็บ AI วาดรูป อย่าง NightCafe นับว่าเป็นเว็บที่มีความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะตัวเว็บสามารถสร้างผลงานวาดรูปได้อย่างสร้างสรรค์ หลากหลายแนวมาก ๆ ทั้งภาพเหมือน ภาพสีน้ำมัน และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยวิธีการใช้ก็เพียงแค่พิมพ์ข้อความภาพที่ต้องการ ทางเว็บก็จะทำการออกแบบรูปมาให้ใช้ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องเสียเงิน และแน่นอนว่าในเรื่องของอัลกอริทึมของเว็บนี้ถือว่ามีความหลากหลายมาก ๆ โดยภาพที่ออกมานั้นก็จะเป็นภาพของคุณทันที หรือถ้าหากอยากจะซื้อเพื่อพิมพ์ภาพออกมาก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม

7. DALL-E 2

สำหรับเว็บไซต์ DALL-E 2 นับว่าเป็นเว็บ AI ที่มีความสามารถในการออกแบบภาพตามข้อความที่คุณได้ระบุไว้ โดยสามารถออกแบบได้ตามสไตล์ที่ต้องการ สิ่งที่โดดเด่นของเว็บนี้ก็คือเมื่อได้ภาพเป็นที่เรียบร้อย เราสามารถเพิ่มองค์ประกอบอื่น ๆ ปรับเสริม เติมแต่งภาพที่ AI วาดออกแบบผ่านการสร้าง Layer ให้กับตัวภาพได้ด้วยอีกด้วย และการสร้างภาพก็ใช้เวลาไม่นานอีกด้วย

8. Deep Dream Generator

สำหรับเว็บ Deep Dream Generator จะเป็น AI ที่จะต้องมีภาพที่ต้องการก่อน ก่อนจะอัพโหลดเว็บไซต์ เพื่อที่จะสามารถรังสรรค์งานศิลปะออกมาได้หลากหลาย หรือมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกประเภทของภาพที่จะวาด รวมไปถึงสไตล์ของภาพที่ต้องการว่าเป็นอย่างไรได้อีกด้วย

9. DeepAI

ถ้าหากใครกำลังมองหาฟังก์ชันเยอะ ๆ ขอให้มาลองเล่นเว็บ DeepAI ที่ถือว่าเป็นเว็บที่มีการใช้งานที่ละเอียดเป็นอย่างมาก อยากจะสร้างภาพจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือต่างๆ ในการปรับเปลี่ยนภาพให้ตรงตามความต้องการได้อีกด้วย หรือถ้าหากอยากจะสร้างงาน Vector เพียงแค่อัพโหลดรูปที่คุณมี ก็สามารถนำไปใช้ได้อย่างง่ายดาย

10. StarryAI

สำหรับ Ai ตัวนี้จะมีทั้งแอพพลิเคชั่นบนระบบ IOS และ Android ซึ่ง StarryAI ถือเป็น AI ที่สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้หลากหลาย และแน่นอนว่างานแต่ละชิ้นดูสวยงามและคุณภาพสูงมาก ๆ การจะได้ภาพมานั้นก็เหมือนกับหลาย ๆ เว็บเพียงแค่กรอกข้อความลงไป ก็จะมีการสร้างผลงานออกมา ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ได้เลย หรือถ้าหากจะใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ได้อยู่เหมือนกัน

AI วาดรูปได้ ตัวช่วยงานดีไซน์

สำหรับ 10 อันดับ AI สานอาร์ตที่มีความสามารถในการวาดรูปเหล่านี้กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถสร้างสรรค์งานสายอาร์ตได้หลากหลายรูปแบบ ถ้าคุณกำลังอยากได้งานภาพที่สามารถนำไปใช้งานได้เลย หรืออยากไอเดียใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์งานประเภทอื่น ๆ ก็สามารถพิมพ์สิ่งที่ต้องการ เพื่อขยายผ่านวิสัยทัศน์ให้กว้างผ่านทางรูปวาดได้ และสำหรับสายงานซับลิเมชั่นอย่างพวกเรา เหล่าบรรดา AI วาดรูป พวกนี้ก็ถือว่ามีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะสามารถช่วยออกแบบโลโก้ ลวดลาย ให้กับงานสกรีนได้เป็นอย่างดีและรวดเร็ว สีสันสั่งได้สดใสฉูดฉาดสมใจ เท่าที่คุณจะป้อนคำสั่งให้เครื่องมือเหล่านั้นรังสรรค์ออกมาให้ แต่ก็แน่นอนว่าต้องไม่ลืมที่จะรักษาคุณภาพของ น้ำหมึก กระดาษซับลิเมชั่น หรือกระดาษรองรีด ด้วยละ !

แต่ก็แอบบอกไว้ว่าถ้าหากให้เทียบงานภาพของ AI กับบรรดาศิลปินชื่อดังทั่วโลก แน่นอนว่าคุณค่าทางงานศิลปะเทียบกันไม่ติดอย่างแน่นอน ตราบเท่าที่งานศิลป์ของมนุษณ์ยังคงแฝงไปด้วยเรื่องราวและอารมณ์.. แต่หากในอนาคตก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ?!

Cover Image : Image by Freepik

สาระทั่วไป
25/05/2023

กระดาษทำอย่างไร ? เรียนรู้ “วิธีทำกระดาษ” จากต้นไม้ตั้งแต่ต้นจนจบ

กระดาษนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่มักจะอยู่ในชีวิตประจำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนำกระดาษมาทำเป็นหนังสือเรียน หนังสืออ่านเล่น กระดาษ A4 กระดาษสำหรับวาดรูป กระดาษทิชชู่ บรรจุภัณฑ์ กล่องพัสดุ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนอกจากการนำกระดาษมาใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วนั้น ในกลุ่มงานภาคธุรกิจหรือภาคอุตสาหกรรมที่ใกล้ตัวคุณมากที่สุด ก็คือ กระดาษรองรีด กระดาษซับลิเมชั่น หรือ กระดาษทรานเฟอร์ ในงานซับลิเมชั่น และแม้ว่า.. จะใกล้ตัวมากขนาดนี้ และคุณก็คงคลุกคลีกับเจ้าสิ่งนี้อยู่ทุกวัน แต่เคยรู้ไหมว่า ?! กระดาษที่ทำมาจากต้นไม้เนี่ย เขามี “วิธีทำกระดาษ” กันอย่างไร ?

ตามที่ได้กล่าวไป.. หลายคนอาจจะรู้แล้วว่าวัสดุมาจากต้นไม้ที่มีลำต้นขนาดใหญ่ โดยต้นไม้ที่เป็นที่นิยมคือต้นยูคาลิปตัส ต้นสนสองใบ ต้นสนสามใบ ต้นกระถินเทพา ต้นแอสเพน ต้นเบิร์ช ซึ่งต้นไม้เหล่านี้นิยมใช้ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก แต่เชื่อว่าน้อยคนนักจะรู้ว่าจากต้นไม้ไปสู่กระดาษชนิดต่าง ๆ สามารถทำได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเราไปหาคำตอบด้วยกันเลยดีกว่า

ทำกระดาษจากต้นไม้ได้อย่างไร ?

สำหรับ วิธีทำกระดาษ จากต้นไม้ที่จะแนะนำต่อไปนี้ จะเป็นขั้นตอนการทำกระดาษเบื้องต้นที่คุณจะสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของกระดาษได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ขั้นตอนต่าง ๆ หากผลิตเอง หรือแต่ละโรงงานเลือกผลิตอาจมีความแตกต่างที่ต่างกันเป็นอย่างมาก และในแต่ละขั้นตอนก็อาจมีรายละเอียดการทำที่แตกต่างกันอีก แต่ถ้าหากให้อธิบายแบบเข้าใจง่าย และรู้ขั้นตอนคร่าว ๆ จะมีรายละเอียดทั้งหมดดังต่อไปนี้

วิธีทำกระดาษ
Image by aleksandarlittlewolf on Freepik

1. เตรียมต้นไม้ ก่อนนำมาทำการแปรรูป

เริ่มแรกคือการเลือกต้นไม้ตามที่ได้มีการอธิบายในข้างต้นว่าส่วนใหญ่นิยมใช้ต้นไหนบ้าง มาทำการตัดโคน นำเอาเปลือกไม้ออกให้หมด และเลื่อยเป็นแผ่นบาง ๆ ชิ้นเล็ก ๆ มากมายนับไม่ถ้วน จากนั้นเอาไม้เหล่านี้ไปบดให้ละเอียด ซึ่งความละเอียดแนะนำว่าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

2. นำไม้ที่ทำเสร็จแล้วมาต้มกับน้ำ

เมื่อบดไม้ให้ละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำเศษไม้เหล่านั้นไปต้มในน้ำ แล้วทำการเคี้ยวให้ไม้กลายเป็นเนื้อเยื่อสีขาว ซึ่งจะคล้าย ๆ กับน้ำสีขาวต้ม ๆ ที่ไม่มีเนื้อสัมผัสความเป็นไม้จากแต่เดิมอีกแล้ว ซึ่งวิธีทำกระดาษจากต้นไม้ ในขั้นตอนนี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ใช้เพียงชนิดเดียว เพื่อที่จะประหยัดต้นทุนในการผลิตได้

3. เทน้ำเนื้อเยื้อไม้ลงไปในตะแกรง

เมื่อเคี้ยวให้เป็นเนื้อเยื้อได้สำเร็จจะมีลักษณะเป็นน้ำเนื้อสัมผัสเป็นขุย ๆ นุ่ม ๆ แล้ว จากนั้นให้นำไปเทในตกแกรงที่มีซีกความถี่ละเอียดมาก หรือก็คือแม่พิมพ์ขนาดใหญ่เมื่อเทเนื้อเยื่อลงไปแล้วก็จะเกาะติดกับตะแกรงตรงนั้น ในส่วนที่เป็นน้ำก็จะไหลผ่านตะแกรงไป หรือเนื้อเยื้อที่เล็กเกินไปจะเล็ดรอด

4. นำเนื้อเยื้อที่อยู่บนตะแกรงมารีด

การนำเนื้อเยื้อที่อยู่บนตะแกรงมารีดหรือก็คือการใช้ลูกกลิ้งขนาดใหญ่ มาทำการรีดบนตะแกรงเพื่อเอานำที่ยังเหลืออยู่ออก และทำให้เนื้อเยื้อที่อยู่บนตะแกรงประสานติดกัน ซึ่งในจุดนี้นับว่าเป็น วิธีทำกระดาษ ที่จะช่วยให้กระดาษที่อยู่บนตะแกรงมีความเรียบสม่ำเสมอกัน

วิธีทำกระดาษ
Image by pch.vector on Freepik

5. นำไปเจอกับความร้อนเพื่อให้กระดาษแห้ง

เมื่อทำการรีดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะนำกระดาษที่อยู่ในตะแกรงไปเจอกับความร้อน ถ้าหากใครใช้ วิธีทำกระดาษ ด้วยตัวเอง ก็แนะนำว่าให้นำไปตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 วันเพื่อให้กระดาษแห้ง แต่ถ้าหากเป็นโรงงานผลิตในขั้นตอนนี้จะใช้เครื่องอบเพื่อที่ให้เนื้อเยื้อกระดาษแห้งและเกาะติดกลายเป็นกระดาษอย่างรวดเร็ว

6. ตกแต่งผิวกระดาษเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสตามที่ต้องการ

ในกรณีที่เป็นโรงงานผลิตกระดาษ ก็จะมีกระดาษแต่ละประเภทที่จะมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน กระดาษบางแบบมีเนื้อเรียบเนียน กระดาษบางแบบมีเนื้อขรุขระอย่างกระดาษร้อยปอนด์ กระดาษที่จำเป็นจะต้องเคลือบพลาสติก หรืออื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อที่กระดาษเหมาะใช้ในหลาย ๆ ขั้นตอน

7. ทำการตัดกระดาษตามขนาดที่ต้องการ

เมื่อเปลี่ยนผิวของพื้นกระดาษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่การตัดขนาดต่าง ๆ ตามที่คนนิสัยส่วนใหญ่ใช้ หลัก ๆ แล้ว เรามักจะรู้จักขนาด A เช่น A3 A4 และ A5 หรือขนาด B เช่น B2 B3 และ B4 และขนาด C เช่น C3 และ C4 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโรงงานเลยว่าจะต้องการกระดาษขนาดไหน

วิธีทำกระดาษ
Image by senivpetro on Freepik

วิธีทำกระดาษ แต่ละชนิดขึ้นอยู่เนื้อเยื้อ

ในการทำกระดาษแต่ละชนิดจะสามารถขึ้นอยู่กับความหนาหรือความบางของเนื้อเยื้อได้ เพราะถ้าหากเนื้อเยื้อที่บางมาก ๆ ก็จะกลายเป็นกระดาษทิชชู่ได้ แน่นอนว่าอาจจะเกี่ยวเนื่องกับการเตรียมเนื้อเยื่อในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย ชนิดไม้ที่ต่างกันก็จะให้เนื้อเยื่อที่ต่างกัน หรือมีการใช้สารเคมี หรือมีการนำกระดาษรีไซเคิลมาแปรเป็นเนื้อเยื้ออีกครั้งหนึ่งก็ได้เช่นกัน ความแตกต่างของกระดาษแต่ละชนิดจึงมีมากมายนับไม่ถ้วน และแน่นอนว่าการแปรรูปให้เป็นกระดาษก็สามารถทำได้หลากหลายเช่นกัน

สรุปวิธีทำกระดาษจากต้นไม้ในปัจจุบัน

วิธีทำกระดาษจากต้นไม้ในปัจจุบันจะเริ่มหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น หากมีการผลิตกระดาษที่น้อยลงก็จะสามารถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเริ่มมีการผลิตกระดาษที่ใช้สำหรับการจดบันทึก หรือกระดาษที่พิมพ์หนังสือเปลี่ยนมาเป็นใช้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทน แต่ก็ยังมีกระดาษบางชนิดที่สร้างมากยิ่งขึ้น เช่น บรรจุภัณฑ์หรือกล่องวัสดุ แม้แต่ภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้บรรจุอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งการเลือกใช้กระดาษเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะสามารถย่อยได้ตามทางธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจากการใช้พลาสติกบางชนิด

Cover Image : Image by Vectonauta on Freepik

Credit :

https://www.youtube.com/watch?v=0VEJCWvfhQg

https://thaifoodpackaging.com/blog/paper-production-process/?fbclid=IwAR3g3_qm_uAlhOnK8YfJGrbAoUkm_nFjmUY2rtL3-aFtu1usKlwJVw_D63o

https://www.1000maidee.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89/?fbclid=IwAR2XLIH6lQww_oqkyWTO5KBYZaa53k1tKBnY4YTAD9LXG8Bmk_ljwkr2Pjk

สาระทั่วไป
28/04/2023

ธุรกิจซับลิเมชั่น ปี 2023 กับ 6 กลยุทธ์ยกระดับ อ่านจบ.. ได้ครบถ้วน!

นับจนถึงตอนนี้ อุตสาหกรรมการพิมพ์ โดยเฉพาะหากคุณต้องการความยูนีค ตามสั่ง ตามใจคุณ งานซับลิเมชั่นกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง เรียกว่ายังคงขับเคลื่อนตลาดสิ่งพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะด้วยเทคนิค เทคโนโลยี ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่กรีฑาทัพให้จับจ่ายใช้สอยเกิดขึ้นมากมาย หากจะบอกว่านี่เป็นหนึ่งช่วงเวลาที่ดีที่จะร่วมวงใน ธุรกิจซับลิเมชั่น นี้ก็คงจะไม่เกินไปนัก

อย่างที่ได้เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้น มูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับแต่งได้ดั่งใจ ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตามกำหนดนั้นเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีมากเลยหากคุณต้องการยกระดับธุรกิจซับลิเมชั่น และบางที 6 กลยุทธ์ต่อไปนี้ อาจจะสร้างโอกาสให้ธุรกิจของคุณเติบโตและสร้างผลกำไรได้มากขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ ลุยเลย!

ธุรกิจซับลิเมชั่น
Image by rawpixel.com on Freepik


1. GO Mobile – ตลาดป๊อปอัพ

ตลาดป๊อปอัพ (Go Mobile) เป็นที่ที่คุณต้องพุ่งไปหา แม้จะสวนทางกับยุคที่เพิ่งจะสร่างเมาจากฤทธิ์โควิด และเรื่องของ Social Distancing ที่เคยรณรงค์กัน แต่สถานการณ์ปัจจุบันนี้สามารถจัดงานต่าง ๆ ได้แล้ว และบรรดาเทศกาลต่าง ๆ เช่น ตลาดเกษตรกร งานโชว์รถ นิทรรศการศิลปะ รวมถึงโอกาสในกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีคนเยอะ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ ฉะนั้น เตรียมบูธของคุณให้พร้อม!

2. Color Charts – เรื่องสีสุดสำคัญ ต้องทำให้เพอร์เฟกต์!

เรื่องของสี การผสมสี การจับคู่สี หากเป็นการดีไซน์สุดฉีกมันก็คงจะดี แต่มันก็คงจะเกินไปหน่อยหากหลุดกรอบเกินไปนัก การใช้ Color Charts ควรเป็นพื้นฐานที่ร้านพิมพ์ซับลิเมชั่นต้องมี ทุกครั้งที่ลงรายละเอียดไปกับการแมทช์ชิ่งคู่สีต่าง ๆ นี่ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น ในทุกสีที่ลูกค้าต้องการเป็นสิ่งที่คุณจะต้องสร้างผลลัพธ์ที่แน่นอนให้กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพในทุกครั้ง

ดังนั้นบอกตรง ๆ หมึกซับลิเมชั่นที่มีคุณภาพสูงขาดไม่ได้เลย หากเรากำลังพูดถึง Color Charts ใน ธุรกิจซับลิเมชั่น

3. ค้นหาตลาดใหม่ สร้างแบรนด์เป็นตัวนำ ธุรกิจซับลิเมชั่น

นี่เป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ประกอบการ จะมีอะไรที่ทำให้คุณมีแรงใจในการต่อยอดธุรกิจไปมากกว่าการค้นพบแหล่งรายได้ใหม่ของคุณ! ซึ่งในหลายธุรกิจ การที่คุณสร้างมาตรฐาน รักษาคุณภาพงานของคุณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

การมีส่วนร่วมในชุมชนก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับแบรนด์ หากได้โอกาสในการมีส่วนร่วม ก็จะสร้างคอนเนคชั่นได้มากขึ้น ต่อด้วยการตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านนี้ คราวนี้หลาย ๆ คนก็จะเริ่มมองหาแบรนด์ของคุณ

ธุรกิจซับลิเมชั่น
Image by Freepik

4. เพิ่มประสิทธิภาพเรื่อง SEO


เป็นกลยุทธ์ที่คุณไม่สามารถละเลยได้เลยหากอยู่ในโลกของออนไลน์ การทำเว็บไซต์เอาไว้เฉย ๆ ไม่เพียงพอต่อไปอีกแล้ว เรื่องของการทำ SEO (Search Engine Optimization) นั้นสำคัญมาก ๆ ไม่งั้นก็เหมือนกับคุณมีหน้าร้านแต่ไม่มีป้ายบอกทาง คนจะเข้ามาหาคุณก็คงยากหน่อย และอาจหายไประหว่างทางเมื่อเจอป้ายที่ชี้ไปร้านอื่นแทน!

การทำ SEO ควรเน้นที่เรื่องของคอนเทนต์ที่มอบประโยชน์ มอบสิ่งที่ดีที่สุดและเหนือกว่าให้แก่ลูกค้า หากสิ่งนั้นตอบโจทย์ในหลาย ๆ คำถามที่มีการค้นหาภายในโลกออนไลน์ คนก็จะเจอเว็บไซต์คุณเป็นที่แรก ๆ เลยล่ะ

5. พัฒนา ธุรกิจซับลิเมชั่น สู่ความยั่งยืนแบบ Sustainability

เทรนด์นี้กำลังมามาก ๆ เพราะเป็นสิ่งที่นอกจากจะสร้างประโยชน์ให้กับตัวธุรกิจแล้วยังส่งผลดีต่อชุมชนและโลกตลอดจนกระเป๋าตังค์ของคุณ

ธุรกิจซับลิเมชั่น
Image by Freepik

การปรับกระบวนการให้งานซับลิเมชั่น ของคุณเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่จำเป็นในปัจจุบัน ส่วนที่บอกไว้ว่ามันดีต่อธุรกิจและต่อโลก ยกตัวอย่างเช่น “การรีไซเคิล” ในวงการนี้หากคุณต้องการรีไซเคิลตลับหมึก กระดาษรองรีด กระดาษซับลิเมชั่น แล้วละก็.. มีบริษัทหลายแห่งมากที่ต้องการและพร้อมจะจ่ายเงินให้กับคุณในส่วนนี้

6. ทบกวนกลยุทธ์การค้าปลีก

การที่หลายสินค้านั้นมีการกำหนดราคา “ตามกลไกลตลาด” อาจทำให้คุณนั้นไม่กล้าที่จะตั้งราคาของสินค้าตัวเองตามต้นทุนจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสร้างผลเสียให้กับธุรกิจในระยะยาว

ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาสำหรับการกำหนดราคาผลิตภัณฑ์การพิมพ์แบบ “ตามสั่ง” ในการค้าปลีก ได้แก่ ต้นทุนขาย (COGS) ระยะเวลาในการผลิต วัสดุสิ้นเปลือง เช่น หมึก กระดาษ บรรจุภัณฑ์ การขนส่ง และค้าใช้จ่ายเพื่อโปรโมทในการตลาด ทั้งหมดนี้เป็นสูตรพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์การค้าปลีกที่มั่นคงได้

ก็จบกันไปแล้วสำหรับ 6 กลยุทธ์ ที่จะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจบนอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์อย่างงานซับลิเมชั่น ไม่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ของธุรกิจคุณจะดีอยู่แล้ว หรือกำลังมองหาช่องทางใหม่ ๆ ในการไปต่อ การปรับปรุงการเพิ่มกลยุทธ์ที่หลากหลายก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีอยู่เสมอ หากเช็คดูแล้วยังไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม อย่างน้อย ๆ ก็ถือว่าเป็นการรีเช็คประจำปีไปพร้อมกันกับพวกเราในบทความนี้ก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน

Cover Image : Image by gpointstudio on Freepik

ขอขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลจากเว็บไซต์ :

สาระทั่วไป
26/03/2023

Football Culture x Sublimation : ปลุกกระแส “เสื้อบอลคลาสสิค”

ในช่วงปีที่ผ่านมากระแสของ Jersey Culture การนำเอาเสื้อแข่งของทีมกีฬามาแต่งตัวเข้ากับชุดแฟชั่นนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะรูปแบบคลาสสิค การหาเสื้อทีมที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงสตอรี่ของที่เสื้อตัวนั้น ๆ มี แต่ส่วนใหญ่หรือเราสามารถพูดได้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นการผลิตแบบสมัยก่อน ..ก็แน่ล่ะ มัน เสื้อบอลคลาสสิค หนิ! ซึ่งเป็นแบบโลโก้ปัก ส่วนพวกลายสกรีนก็อาจมีแบบเฟล็กซ์ร่วมด้วยหากปีใหม่ขึ้นมาหน่อย (ปี 2008 ขึ้นไป)

เสื้อบอลคลาสสิค
Credit by : https://www.goal.com/en-gb/lists/best-retro-modern-football-shirts-summer/bltee9eb2b48987cda5

ยิ่งช่วงปลายปี 2022 จนถึงต้นปี 2023 นี้ มีหลายแบรนด์เลยที่ถูกกระแสคลาสสิคนี้ปลุกให้ร่วมบุกตลาด “เสื้อบอล” ที่คราวนี้คำถึงเรื่องแฟชั่นมากขึ้น เน้นไปที่การมิกซ์แอนด์แมตช์นอกสนามมากขึ้น  ส่วนเรื่องการผลิตก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่รูปแบบเก่าแล้วแม้จะอิงเรื่องดีไซน์ที่ย้อนยุคและกลิ่นอายของความคลาสสิคก็ตาม มีทั้งการสกรีนเฟล็กซ์แบบสมัยใหม่ในส่วนของโลโก้ จุดสปอนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงการผสานเทคนิคซับลิเมชั่นที่เป็นแบบพิมพ์ลายทั้งตัวก็ได้รับความนิยมเช่นกัน (เทคนิคนี้จำเป็นต้องใช้กระดาษซับลิเมชั่น กระดาษรองรีด และหมึกซับลิเมชั่นที่มีคุณภาพสูง) และวันนี้เราจะพาไปยลเสื้อสวย ๆ ที่รับรองได้เลยว่าใส่เตะบอลก็เท่ ใส่ไปเที่ยวก็เก๋ เชิญไปติดตามกันเลย!

เสื้อบอล x แฟชั่น : ARI MAINSTAND RETRO JERSEY 2022

แบรนด์ Ari (อาริ) เป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่เดินหน้าสร้างตัวตนให้เป็นดั่ง “สวรรค์ของคนรักฟุตบอล” รวมรวบทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับวงการลูกหนังให้ชาวสยามได้เลือกสรรค์ ส่วนด้านของ MAINSTAND นาทีนี้ถือเป็นหนึ่งในสื่อที่รวบรวม “อินฟลูเอนเซอร์” ด้านฟุตบอลเอาไว้ไม่น้อยกว่าสื่อกีฬาไหน ๆ เรียกว่าเป็นการ Collab ที่น่าจับตามอง ก่อนจะออกมาเป็นเสื้อตัวด้านล่างให้ทุกคนได้จับจองกันนี้เอง

เสื้อบอลคลาสสิค
Credit by : https://today.line.me/th/v2/article/nXY96yM

โดยตัวลวดลายของเสื้อนั้นได้แรงบันดาลใจจากยุค 90s และหากสังเกตดี ๆ แพทเทิร์นบนลายเสื้อก็คือตัว “M” ซึ่งก็หมายถึง Mainstand บนตัวเสื้อจะมีแค่โลโก้ของ อาริ กับ เมนสแตนด์ เท่านั้นที่เป็นแบบแปะลงบนพื้นผิว ส่วนลวดลายกราฟิกของเสื้อเป็นงานพิมพ์ลายแบบซับลิเมชั่น นอกจากจะมีความโดดเด่นแล้ว เทคนิคการพิมพ์แบบนี้นั้นทำให้ผ้านั้นไม่หนัก ต่างจากเสื้อบอลยุค 90s จริง ๆ ที่จะเป็นงานปักที่หนักอึ้ง รวมถึงตัวผ้าที่บอกเลยว่าถ้าใส่หน้าร้อนเมืองไทยนั้นมีตัวเปียกแน่นอน แถมคัตติ้งของเสื้อตัวนี้ได้ตอกย้ำความคลาสสิคเข้าไปอีกด้วย “คอปก” ผสานกับลวดลายแบบตัดที่เรียกว่า Pin Stripes หากใครเกิดทัน หรือเสพย์เสื้อบอลแนวนี้จะทราบดีว่านี่เป็นลายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยนั้น

เสื้อบอล x แฟชั่น : Ari x Indigoskins “Become a Legend”

เป็นการ Collaboration ของสองวงการ อาริ ตัวแทนด้านแฟชั่นกีฬาเจ้าเก่า คราวนี้รวมพลังกับแบรนด์ยีนส์สุดพรีเมียมสัญชาติไทย อย่าง Indigoskins ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นสุดพิเศษ นำเอาเอกลักษณ์ของเหล่าทีมฟุตบอลในความทรงจำ รวมถึงแรงบันดาลใจของเสื้อบอลระดับตำนาน ผสมผสานกับลายไทยอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ อินดิโก้สกินส์ ดีไซน์โดย อาริ ที่มีความเข้าใจกับความเป็นโมเดิร์นฟุตบอลได้เป็นอย่างดี

เสื้อบอลคลาสสิค
Credit by : https://www.mainstand.co.th/th/news/8/article/8648

โดยในคอลเลคชั่นนี้มีถึง 5 ลายด้วยกัน ชูโรงด้วยชุดแข่งแบบเต็มตัว Indigoskins x Ari Performance Jersey ตัวชูโรงที่ใช้ “ลายบ่อบัว” สัญลักษณ์ของแบรนด์ และ “ลายรดน้ำ” งานประณีตศิลป์ของไทย ตามด้วยอีก 4 ชุดที่เป็นแบบย้อนยุค บ่อบัวคราม, สามกษัตริย์, สุวรรณสมุทร และ กระหนกเปลว ซึ่งทุกชุดนั้นจะเป็นเทคนิคเดียวกัน คือ เสื้อพิมพ์ลายทั้งตัว อาจสอดแทรกเทคนิคกระบวนการพิเศษของ อาริ ในเรื่องของตัวโลโก้และสปอนเซอร์

เสื้อบอลคลาสสิค ไม่จำเป็นต้องเก่าอีกต่อไป?

เลือกปิดท้ายกันแบบนี้ก็ต้องขออภัยกลุ่มคนที่รักเสื้อวินเทจก่อนเลย ซึ่งเรานั้นทราบดีว่ามูลค่าของเสื้อวินเทจฟุตบอลจริง ๆ มีราคาที่วัดกันตามสตอรี่ ดีไซน์ และคุณค่าทางจิตใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางเลือกของกลุ่มคนที่เน้นในเรื่องของดีไซน์จริง ๆ อยากใส่เสื้อบอลแนวเรโทรแบบใหม่ก็มีไม่น้อย พิสูจน์ได้ตรงที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง ไนกี้ และ อาดิดาส เลือกที่จะผลิตชุดแข่งแบบเรโทรให้แฟนบอลได้เก็บสะสมกันในช่วงที่ผ่านมา แถมยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ออกมาเท่าไหร่ก็ขายเหมือนแจกฟรี

ยิ่งหากต้องการสวมด้วยความเบาสบาย สำหรับแบรนด์หน้าใหม่ หรือต้องการเริ่มต้นในวงการนี้ การเลือกผลิตแบบเสื้อพิมพ์ด้วยงานซับลิเมชั่นนั้นเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้บริโภค สุดท้ายก็อยู่ที่ความชอบใครความชอบมัน แต่ถ้าหากคุณรักที่จะใส่แบบสวยใสไร้ตำหนิ งานผลิตแบบใหม่ที่เรานำเสนอวันนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอน!

Credit : Cover Image by https://www.nike.com/in/football/jersey-culture

สาระทั่วไป
15/03/2023

เกาะกระแสเทรนด์ Sustainability งาน Sublimation ก็ Eco Friendly ได้

จั่วหัวกันมาแบบนี้ อาจจะฟังดูยกยอปอปั้นงานซับลิเมชั่นเกินไปหน่อย แต่ที่เราจะนำมาแชร์กันผ่านเนื้อหาวันนี้มันคือข้อเท็จจริง โดยเฉพาะหากคุณต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม และดำเนินธุรกิจของคุณแบบ Eco Friendly ตามเทรนด์ Sustainability ที่ตอนนี้นั้นไม่ใช่แค่เทรนด์ และอาจจะกลายเป็นก้าวแรกของหลาย ๆ องค์กรที่ต้องการพัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืน

นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ เพราะสิ่งแวดล้อมและชีวิตสำคัญไม่แพ้ผลกำไรทางธุรกิจ สตาร์ทถูกวิธีก็จะมีแต่อะไรดี ๆ เกิดขึ้นแน่นอน!

Eco Friendly
Image by rawpixel.com on Freepik

Eco Friendly ได้จริงหรือ ? Sublimation x Sustainability

ที่ผ่านมา กรรมวิธีการย้อมสีแบบเก่าที่นิยมกันมาเนิ่นนาน การผลิตสิ่งทอด้วยกระบวนการที่ว่านี้เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมากอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวการหลักเลยก็ยังได้! เพราะสิ่งนี้ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำในอุตสาหกรรมทั่วโลกถึง 17-20% รวมถึงขยะมูลฝอยจำนวนมากที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อเครื่องย้อมผ้าเริ่มตกรุ่น แต่แม้เมื่อไม่กี่ปีมานี้จะมีการผลักดันให้อุตสาหกรรมสิ่งทอสะอาดขึ้นในบางกระบวนการ แต่ก็ยังมีอยู่มากที่ยังคงใช้วิธีแบบเดิม ซึ่งสวนกันกับแนวทางเทรนด์ Sustainability ในปัจจุบัน และดูไม่ Eco Friendly เท่าไหร่นัก..

แต่อย่างที่ทราบกันดี หากใครที่อยู่ในวงการนี้มาสักพักจะเห็นว่าเทคนิคซับลิเมชั่นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการสกรีน การย้อมสี แบบเก่า โดยการพิมพ์แบบซับลิเมชั่น หรือ Sublimation Printing นั้นไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้น้ำและไม่ใช่การย้อมหมึก แต่สามารถให้สีที่สดใสและมีความทนทานในทุกการออกแบบ ส่วนแนวทางที่จะนำพาเรามุ่งสู่เทรนด์ดังกล่าวด้วยสิ่งนี้ เรามีแนวทางของ Purnaa ซึ่งได้ประเมินผลกระทบของการพิมพ์แบบซับลิเมชั่นที่มีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมแบ่งปันแนวทางที่พวกเขาได้สร้างระบบการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ก้าวแรกของการเรียนรู้สู่ความยั่งยืน

Eco Friendly
Image by Freepik

Sublimation Printing สู่กระบวนการพิมพ์รักษ์โลกแบบครบวงจร ?

หากพูดถึงการสกรีน การย้อมสี แบบดั้งเดิม “น้ำ” เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการย้อมสีสำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอส่วนใหญ่ โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนสีย้อมเข้าสู่สิ่งทอ ใช้น้ำปริมาณกว่า 200 ตัน ต่อการย้อมผ้าเพียง 1 ตัน นี่นับว่าเป็นปริมาณมาก แถมเรื่องการควบคุมน้ำที่ไม่ดีของเทศบาล อาจทำให้น้ำเหล่านี้กลับสู่ระบบนิเวศเดิมด้วยสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งอาจรวมถึงสารเคมีก่อมะเร็ง สีย้อม เกือล และโลหะหนัก สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างมลภาวะต่อแหล่งน้ำดื่มที่จำเป็นอีกต่างหาก

กลับกัน กระบวนการของ Sublimation Printing ไม่ได้ใช้น้ำเป็นหลักในการปรินท์ เปลี่ยนเป็นใช้ความร้อนแทน ด้วยเทคนิคการพิมพ์โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า “การระเหิด” หมึกไปสู่กระดาษซับลิเมชั่น แม้จะยังมีหลายสิ่งอย่างที่ต้องปรับปรุง แต่คุณสามารถเลือกใช้แนวทางต่อไปนี้ยกระดับให้เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่นคุณควบคู่ไปกับการรักษ์โลกได้

Eco Friendly
Image by Freepik

แนวทางปฏิบัติสำหรับงานซับลิเมชั่นสู่เทรนด์ Sustainability

  1. สอบถามซัพพลายเออร์เกี่ยวกับเรื่องของหมึกซับลิเมชั่น เช็คว่ามีสารประกอบของบรรดาสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs : สารเคมีที่ก่อให้เกิดมลพิษทำลายโอโซน) หรือไม่ หากผู้ผลิตหมึกของคุณให้การรับรองของผลิตภัณฑ์ได้ ก็พร้อมดำเนินการได้เลย
  2. หลีกเลี่ยงหมึกพิมพ์ที่มีโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม หรือปรอท หากมีซัพพลายเออร์ที่เป็นสมาชิกของ The Ecological and Toxicological Association of Dyes and Organic Pigments Manufacturers (ETAD) มีใบรับรอง มั่นใจได้ว่าปลอดสารที่กล่าวไปข้างต้นชัวร์
  3. พิจารณาเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ ซึ่งการพิมพ์แบบระเหิดส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ผ้าโพลีเอสเตอร์ เนื่องจากหมึกซับลิเมชั่นต้องจับตัวกันทางเคมีกับโพลีเมอร์ ซึ่งไม่มีอยู่ในเส้นใยธรรมชาติ และสิ่งนี้นั้นก่อให้เกิดไมโครพลาสติกในน้ำได้ ใช้เวลานานมากในการย่อยสลาย หากคุณสามารถดีลกับซัพพลายเออร์ให้ใช้โพลีเอสเตอร์รีไซเคิลได้จะช่วยอย่างมาก พร้อมทั้งมีวิธีตรวจสอบลูกค้าของคุณว่ามีวิธีรีไซเคิลผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเมื่อหมดอายุการใช้งาน

ทั้ง 3 แนวทางที่ได้กล่าวมา ข้อสุดท้ายนี้อาจจะยากและจำกัดกระบวนการทางธุรกิจพอสมควร หากทำได้จะส่งผลที่ดีมากต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากจะเป็นการเริ่มต้นสู่ความยั่งยืนขององค์กรคุณ นี่ยังช่วยให้บรรดาซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องนั้นเดินไปในทิศทางเดียวกัน ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดี ควรค่าต่อการเริ่มต้นอย่างมากเลยทีเดียว

Cover Image : Image by Freepik

ขอบคุณข้อมูลจาก :

https://www.purnaa.com/post/sustainability-in-sublimation-printing

https://www.auspirit.com/is-dye-sublimation-sustainable/

สาระทั่วไป
27/02/2023

Dye-Sub เทรนด์ปี 2023 ยกระดับธุรกิจด้วย Industry 4.0

มากันที่ข่าวสารอัพเดตล่าสุดเกี่ยวกับอุตสาหกรรม Dye-Sub หรืองานพิมพ์ซับลิเมชั่นที่เราคลุกคลีกันบ้าง โดยเนื้อหาที่นำมาแบ่งปันกันวันนี้เป็นการวิจัยพิเศษจาก The Future of Dye-Sublimation Printing เป็นคาดการณ์ที่เคยตีพิมพ์เมื่อปี 2019 ก่อนจะถูกเผยแพร่ซ้ำในปี 2023 นี้ คีย์สำคัญคือการติดตามว่าตลาดนี้ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจากมูลค่า 6.99 พันล้านยูโร (ประมาณสองแสนล้านบาท) ขยับเป็น 7.63 พันล้านยูโร (ประมาณสามแสนล้านบาท) ภายในระยะเวลาแค่ปี 2017-2018 ได้อย่างไร ซึ่งจากข้อมูลที่มีตีความคร่าว ๆ ได้ว่าตลาดนี้นั้นมีความแข็งแกร่งและเติบโตได้ไวมาก

อัตราการขยายตัวความต้องการสำหรับอุตสาหกรรมซับลิเมชั่นทั่วโลกนั้นลดลงในช่วงครึ่งทศวรรษแรก ซึ่งก็เป็นช่วงปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มีการเติบโตช้า การปรับตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงเป็นเรื่องสำคัญ และต่อไปนี้เป็นแนวโน้มสำคัญที่จะช่วยยกระดับธุรกิจคุณ

การพิมพ์เพื่อผลิตภาพที่สูงขึ้น

ในรายงานกล่าวว่าผู้จำหน่ายอุปกรณ์ Dye-Sub อดีตนั้นได้ลูกค้าใหม่ด้วยการขายเครื่องพิมพ์ระดับเริ่มต้น จากนั้นจะเป็นเส้นทางสู่การอัพเกรดอย่างต่อเนื่องเป็นเครื่องจักรระดับสูงผ่านโซลูชั่นสำหรับตลาดระดับกลาง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงโมดูล เพิ่มหัวพิมพ์ หรืออาจหมายถึงการซื้อเครื่องใหม่ในแต่ละขั้นตอน

Dye-Sub
Image by usertrmk on Freepik

ความต้องการของโซลูชั่นต้นทุนต่ำและปริมาณที่มากขึ้นกำลังผลักดันการพิมพ์แบบรอบเดียว ซึ่งเป็นกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่โดยทั่วไปมักเกี่ยวข้องกับเครื่องพิมพ์ระดับไฮเอนด์ที่มีหัวพิมพ์จำนวนมากขึ้น

การสำรวจเครื่องจักใหม่ที่เปิดตัวสู่ตลาดขององค์กรวิจัย Smithers ในปี 2016-2017 ระบุว่ามีการเปิดตัวเครื่องจักรมากขึ้นในราคาระดับบนของตลาดการผลิตระดับกลาง สิ่งสำคัญคือเครื่องเหล่านี้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถชะลอความจำเป็นในการลงทุนครั้งใหญ่สำหรับผู้ให้บริการ แต่สามารถให้ผลผลิตเต็มรูปแบบได้ในขณะเดียวกัน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้

ผลักดันระบบอัตโนมัติให้ดียิ่งขึ้น

ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมไหน การเข้าถึงระบบอัตโนมัติเป็นเรื่องจำเป็นต่อการยกระดับสู่ Industry 4.0 ที่มีปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลเป็นแกนนำ ซึ่งในทางปฏิบัติ การพิมพ์ดิจิทัลช่วยให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้นสำหรับการทำงานระยะสั้นถึงระยะกลาง เมื่อเทียบการพิมพ์แบบเดิม โดยลดเวลาในการเตรียมงานลง

Dye-Sub
Image by usertrmk on Freepik

นอกเหนือจากนี้ การเพิมผลิตภาพเพิ่มเติมในงาน Dye-Sub นั้นใกล้เข้ามาและระบบอัตโนมัติสามารถยกระดับสิ่งเหล่านี้ได้ :

  • การบรรจุ หมึกซับลิเมชั่น กระดาษซับลิเมชั่น กระดาษทรานเฟอร์ และ กระดาษรองรีด
  • การทำความสะอาดหัวพิมพ์และการจัดตำแหน่ง
  • การจัดการกระดาษ
  • ซอฟต์แวร์สำหรับการสั่งพิมพ์ผ่านเว็บและการจัดการสื่อสิ่งพิมพ์

วิวัฒนาการของแฟชั่นและการค้าปลีกออนไลน์

ความแพร่หลายของโลกอินเทอร์เน็ตในฐานะช่องทางการขายที่สร้างอิมแพคอย่างมากต่อระบบซัพพลายเชนสำหรับผ้าพิมพ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและเสื้อผ้าที่เกี่ยวข้อง เทรนด์สำคัญอย่างหนึ่งของ ZARA แบรนด์ใหญ่ที่เป็นผู้บุกเบิก “Fast Fashion” การเปลี่ยนของแฟชั่นที่รวดเร็ว และการเปิดตัวคอลเลกชั่นหลายชุดในซีซั่นประจำไตรมาส แถมยังมีการเพิ่มจำนวนของ “มินิซีซั่น” ลงในระบบร้านค้าออนไลน์และเว็บไซต์ เป็นคำตอบที่ชัดเจนของเรื่องนี้

Dye-Sub
Image by rawpixel.com on Freepik

ดีไซเนอร์ และ ซัพพลายเชน รวมถึง “เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น” ระดับสูงได้มารตฐานสากลที่สามารถพลิกโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ได้นั้นมีความได้เปรียบทางการค้าอย่างมาก แพลตฟอร์มการพิมพ์ดิจิทัล เช่น Dye-Sub เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยในเรื่องนี้ ช่วยสร้างอิมแพคแบบทวีคูณหากผู้ให้บริการรวมมือกับซอฟต์แวร์สมัยใหม่ เพื่อทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกและแบรนด์ในการออกแบบเรียลไทม์ ทำให้การสร้างเสื้อผ้าทำได้รวดเร็วขึ้น

และโลกออนไลน์ใบเดียวกันนี้แหละที่จะใช้ในการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ข้อมูลต่าง ๆ สามารถใช้เป็นตัวกำหนดการออกแบบ คาดการณ์ได้ว่าความเปลี่ยนแปลงแบบไหนจะเป็นเทรนด์ในอนาคต ด้วยระยะเวลาที่สั้นลงเรื่องของซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นตัวช่วยชั้นดี ที่จะสร้างยอดขายและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจ

Cover Image by : Image by rawpixel.com on Freepik

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก :

Dye Sublimation Printer Market 2023 Upcoming Trends and Forecast to 2028 | New Revenue Report by Prominent Players, and Incredible Growth Opportunities – MarketWatch

Dye Sublimation Printing Market Key Trends | Smithers

สาระทั่วไป
15/01/2023

เครื่องปริ้น สำหรับงานซับลิเมชั่น ปี 2023 สำหรับมือใหม่!

สำหรับงานซับลิเมชั่นแล้ว สิ่งที่เราชวนคุยชวนอ่านกันมาตลอดส่วนมากจะเป็นเรื่องของเทคนิค รวมถึงเทรนด์ต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมนี้ จนบางทีก็อาจจะละเลยสิ่งสำคัญพื้นฐานอย่าง “เครื่องปริ้น” กันไปเลย เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่อยากรู้ว่าหากต้องการเริ่มต้นกับสิ่งนี้ ต้องใช้สเปคเครื่องแบบไหน และปัจจุบันนั้นมีแบรนด์ไหนบ้างที่ตอบโจทย์งานเฉพาะด้านนี้แบบเต็มประสิทธิภาพ หากคุณเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้ กำลังรู้สึกสงสัยใคร่รู้ล่ะก็.. บอกเลยวันนี้คุณมาถูกทางแล้ว

แนะนำเครื่องปริ้นซับลิเมชั่นปี 2023 ใช้งานง่าย ฟังก์ชั่นล้ำ

เริ่มต้นเดือนแรกของปี 2023 เราก็อยากจะมีอะไรเด็ด ๆ มานำเสนอแด่มิตรรักชาวซับฯ กันสักหน่อย โดยเฉพาะใครก็ตามที่กำลังจด ๆ จ้อง ๆ ลังเลอยู่ว่าจะเข้าสู่วงการนี้ดีหรือเปล่า… รวมถึงกลุ่มคนที่ติดตามกันอยู่แล้ว อยากจะอัพเกรดเครื่องไม้เครื่องมือ ยกระดับงานซับลิเมชั่นของคุณขึ้นไปอีกขั้น รับรองเลยว่า 2 เครื่องปริ้นสำหรับงานซับลิเมชั่นที่เรานำมาให้คุณได้ทำความรู้จัก พร้อมเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมีใครมองข้ามได้เลยล่ะ

เครื่องปริ้น Epson EcoTank ET-15000 Wireless Printer

จากหลาย ๆ สำนักที่เกี่ยวกับวงการนี้ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้าตัว Epson EcoTank ET-15000 Wireless Printer นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องปริ้นซับลิเมชั่นที่ดีที่สุดในตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตที่เหนือกว่า ความคุ้มค่า ตัวเลือกการเชื่อมต่ออันแสนยืดหยุ่น และฟังก์ชั่นทีเด็ดอย่าง “Precision Core” ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ล้วนปลาบปลื้ม เรียกได้ว่านี่เป็นเครื่องปริ้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับมือให้ ที่สามารถรังสรรค์ผลงานคุณภาพระดับมือาชีพได้!

Epson ET-15000 มีขนาด 22.7 x 17.6 x 13 นิ้ว มีน้ำหนักเพียง 12.5 กิโลกรัม ด้วยความที่เบาขนาดนี้ ทำให้การเคลื่อนย้ายทำได้ง่ายดายสุด ๆ

เครื่องปริ้น
Image by https://www.amazon.co.uk/Epson-C11CH96401CA-EcoTank-ET-15000/dp/B08BGCNKQ7?th=1

เรื่องของข้อมูลเทคนิค เครื่องนี้ใช้ชิปสำหรับการทำงานที่มีความรวดเร็วและมีความหนาแน่นสูง สามารถสร้างจุด สร้างเม็ดสีได้มากถึง 40,000,000 จุดแบบสมบูรณ์ต่อวินาที อีกสองสิ่งที่สำคัญนอกจากคุณภาพชิปของเครื่อง คือ ไม่เปลืองหมึกหากเทียบกับรุ่นก่อน รุ่นนี้ลดการใช้หมึกโดยรวมได้ถึง 90% และราคาไม่สูง

จุดเด่น

  • สามารถจัดหน้ากระดาษได้หลากหลาย
  • ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
  • ไม่เปลืองหมึก
  • ราคาย่อมเยาว์

ข้อสังเกต

  • ไม่ใช่เครื่องปริ้นเฉพาะทาง 100 เปอร์เซนต์ ต้องปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อใช้งานกับซับลิเมชั่น

เครื่องปริ้น Epson WorkForce WF-7720 Wireless Printer

ค่ายเดียวกันเลย และก็ยังคงโดดเด่นเหนือคู่แข่งด้วยเทคโนโลยี “Precision Core” เจ้าสิ่งนี้ทำให้ความเร็วในการพิมพ์ของ Epson WorkForce WF 7720 อยู่ที่ประมาณ 10 หน้าต่อนาที (PPM) สำหรับพิมพ์สี ส่วนงานขาวดำจะอยู่ที่ 18 หน้าต่อนาทีกันเลยทีเดียว!

ความเร็วเหล่านี้เทียบได้กับความเร็วของการพิมพ์ขาวดำในรุ่น WF 3702 (20 หน้าต่อนาที)ค่ายเดียวกัน แต่สำหรับเครื่องนี้นั้นให้รายละเอียดของสีและภาพที่ดีกว่า เพราะถ้าหากต้องการแค่ความเร็วแล้ว ตัว HP Office Jet Pro 9015 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมกว่า

เครื่องปริ้น
Image by https://www.bestbuy.com/site/epson-workforce-wf-7720-wireless-all-in-one-inkjet-printer-black/6059900.p?skuId=6059900&intl=nosplash

หากคุณกำลังมองหาเครื่องปริ้นเพื่อต่อยอดงานซับลิเมชั่นของคุณ เรื่องของความเร็วที่อยู่ในระดับหัวแถว คุณภาพยอดเยี่ยม ควบคุมใช้งานง่ายผ่านแอพ Epson Connect นี่ถือเป็นเครื่องมือที่ควรค่าแก่การสถิตย์อยู่ในสเตชั่นของคุณอย่างมาก!  

จุดเด่น

  • ป้อนเอกสารอัตโนมัติ
  • จุกระดาษได้เยอะ
  • คุณภาพการพิมพ์แบบไร้ขอบที่ยอดเยี่ยม
  • ใช้งานง่าย ทันสมัยด้วยแอพพลิเคชั่น

จุดสังเกต

  • ใช้หมึกจำนวนมากสำหรับงานพิมพ์แบบไร้ขอบ

เมื่อคุณภาพไม่หนีกัน ความเร็วและส่วนประกอบอื่นจะเป็นตัวตัดสิน ?

ในตลาดเครื่องปริ้นงานซับลิเมชั่นที่ไม่ใช่แบบเฉพาะทาง เครื่องแบบเต็มระบบที่มาพร้อมกับราคาสุดอลังการ ในระดับเริ่มต้นนั้นคุณภาพต่าง ๆ การใช้งานจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

จากที่ไล่รีเซิร์ชสเปคและความนิยมจากแหล่งต่าง ๆ ก่อนจะมาคัดเหลือแค่ 2 รายชื่อนี้ มันมีเหตุผลตรงที่เครื่องของ EPSON มีเทคโนโลยี Precision Core ที่ทำให้เรื่องความเร็วกับคุณภาพนั้นมาพร้อมกัน และมันสามารถยกระดับให้ทัดเทียมกันได้ด้วยอุปกรณ์อื่น เช่น กระดาษซับลิเมชั่น หมึกซับลิเมชั่น กระดาษทรานเฟอร์ และกระดาษรองรีด ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล 

ฉะนั้น เรื่องของราคาเครื่องและความเร็วในการทำงานจึงน่าจะเป็นตัวชี้วัดอันดับต้น ๆ หากคุณต้องการเริ่มต้นสร้างธุรกิจแบบราคาย่อมเยาว์ก่อนก้าวไปสู่ระดับมืออาชีพ เครื่องปริ้นพร้อมสตาร์ทเตอร์แพคดี ๆ สักเซ็ตถือเป็นคีย์แมนของวงการนี้.. เตรียมกระดาษซับลิเมชั่น และหมึกให้พร้อมลุย !..

Cover Image : Image by Freepik

Credits : ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บ

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น, สาระทั่วไป, หมึกซับลิเมชั่น
16/12/2022

เสื้อผ้ากีฬา x รักษ์โลก “ซับลิเมชั่น” พร้อมเป็นทางเลือก?

ในวงการซับลิเมชั่น หากใครที่คลุกคลีกันมาสักพักหรือทำธุรกิจมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของ “ซับลิเมชั่น” น่าจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการพิมพ์แบบซับลิเมชั่นทำงานได้ดีกับเส้นใยสังเคราะห์อย่างโพลีเอสเตอร์เท่านั้น แต่ตัวของโพลีเอสเตอร์เองไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร (แม้แต่วัสดุที่ทำจากขวดน้ำรีไซเคิลก็ตาม) และหาก เสื้อผ้ากีฬา ที่ทำจากเส้นใยเหล่านี้ไม่ถูกฝังกลบ สุดท้ายก็มันก็จะไปจบลงที่รูปแบบไมโครพลาสติก ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ส่งเสริมการ “รักษ์โลก” เท่าไหร่นัก และทุกวันนี้ sustain product ก็กำลังเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังมุ่งมั่นปลุกกระแสให้ชาวโลกตื่นตัวกันมากขึ้นในทุกวันนี้

ยิ่งเป็นแบรนด์ “ยักษ์ใหญ่” ยิ่งต้องใส่ใจเรื่อง “รักษ์โลก”

แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง อาดิดาส พวกเขาดินหน้าลุยแคมเปญ “รักษ์โลก” มาหลายปีแล้ว โดยมีการร่วมมือกับ พาร์ลีย์ ฟอร์ ดิ โอเชียนส์ (Parley for the Oceans) ซึ่งไม่ใช่แค่ไลน์ผลิตเสื้อฟุตบอลเท่านั้น เพราะไลน์แฟชั่นอย่าง อาดิดาส ออริจินอลส์ ก็ยังเดินหน้าสานต่อแคมเปญนี้อย่างต่อเนื่อง เพิ่งจะเปิดตัวเสือผ้าภายใต้แคมเปญ ไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเทคนิคที่น่าสนใจนั้นอยู่ที่ “เสื้อบอล” เสียมากกว่า

เสื้อผ้ากีฬา
Image by gameplan-a.com

ตัวอย่างแคมเปญ อาดิดาส x พาร์ลีย์ ” เสื้อผ้ากีฬา รักษ์โลก”

เสื้อบอลที่เป็นแคมเปญ อาดิดาส x พาร์ลีย์ ชุดแข่งของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังอย่าง เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ทั้งสองทีมนั้นถูกออกแบบด้วยสีประจำสโมสรล้วนทั้งชุด ส่วนตัวโลโก้สโมสรนั้นทำจากพลาสติกจากมหาสมุทร และลายพิมพ์อันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของแบรนด์ โดยทั้งชุดนี้นั้นเป็นสร้างขึ้นจากมลพิษพลาสติกที่อยู่ในทะเล ก่อนถูกนำมาผ่านกระบวนการทำความสะอาดแบบ “พาร์ลีย์”

เสื้อผ้ากีฬา
Image by diarioavance.com

นอกจากจะใช้วัสดุที่รักโลกแบบสุด ๆ แคมเปญนี้ยังสะท้อนเรื่องราวและคงความเป็นเอกลักษณ์ของเสื้อแข่งฟุตบอลเอาไว้ ผสมผสานกับกลิ่นอายความมุ่งมั่นของ พาร์ลีย์ ที่มีต่อมหาสมุทร แม้ว่าตัวโลโก้สโมสรของ เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค จะเห็นแค่เพียงลาง ๆ แต่ความตั้งใจนี้ก็เป็นข้อตกลงที่ทาง อาดิดาส กับ พาร์ลีย์ อยากจะให้ชุดแข่งจากแคมเปญนี้มีความยั่งยืน ใช้ได้นานที่สุด และไม่กลับมาเป็นมลพิษของโลกแบบง่าย ๆ นั่นเอง

แล้วงานเทคนิคซับลิเมชั่นบน เสื้อผ้ากีฬา “รักษ์โลก” แค่ไหน?

แวะไปพูดถึงเรื่องอื่นเสียยืดยาว แต่ประเด็นสำคัญที่เราจะพูดถึงก็ยังเป็นเรื่องของ “ซับลิเมชั่น” ซึ่งจริง ๆ แล้วเชื่อว่าแคมเปญ อาดิดาส x พาร์ลีย์ นั้นอาจจะใช้เทคนิคขั้นพื้นฐานในการสกรีนลายเสื้อผ้ากีฬา ด้วยเทคนี้นั่นแหละ แต่การเป็นแบรนด์ใหญ่ก็มักจะใช้ชื่อเทคนิคเฉพาะเพื่อสร้างแบรนดิ้งให้เป็นเทคโนโลยีของบริษัท เพราะเอาเข้าจริงการใช้กระบวนการซับลิเมชั่นก็ทำให้คุณเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าการสกรีนแบบดั้งเดิมมากกมายแล้ว ด้วยเทคนิคซับลิเมชั่น คุณจะใช้น้ำหมึกเพียง 5 มิลลิลิตร เท่านั้น ต่ออัตราส่วนสำหรับการย้อมเสื้อผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 1 กิโลกรัม ซึ่งต่างจากการย้อมแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้น้ำหมึกมากถึง 200 ลิตร สำหรับเสื้อผ้าในปริมาณที่เท่ากัน!

นอกจากเรื่องของตัวหมึกเองแล้ว ตลอดกระบวนการคุณยังไม่จำเป็นต้องใช้สารอันตรายใด ๆ ลงบนผ้าเหมือนกับการย้อมแบบเก่า แถมการใช้เทคนิคซับลิเมชั่นยังแทรกซึมเส้นใยในระดับเซลล์ ไม่ถูกชะล้างออกไปง่าย ให้ผลดีกว่าการย้อมแบบเดิม ๆ อย่างมาก

เริ่มธุรกิจและรักษ์โลกไปพร้อมกันได้ด้วยเทคนิคซับลิเมชั่น

ในส่วนของกระบวนการสกรีนเสื้อด้วยเทคนิคซับลิเมชั่น รวมถึงการทำลวดลายด้วยเทคนิคนี้บนวัสดุแบบอื่นเพื่อเป็นสินค้าต่าง ๆ เรามีบทความแนะนำมากมายให้เลือกอ่าน และหากคุณกำลังมีแผนที่จะทำธุรกิจ อย่าง “เสื้อผ้ากีฬา” ที่ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าการใช้เทคนิคพิมพ์ลายแบบซับลิเมชั่นกำลังมาแรงแบบสุด ๆ เป็น “ตัวตึง” แห่งวงการทำเสื้อผ้ากีฬาเลยก็ว่าได้ แถมนอกจากจะทำง่ายและสะดวกกว่าการสกรีนเฟลกซ์แบบดั้งเดิมแล้วยังรักษ์โลกอีกต่างหาก ลองศึกษากระบวนการซับลิเมชั่นดู บางทีอาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับโลกปัจจุบันนี้!

Cover Image : https://www.soccerbible.com/performance/football-apparel/2016/11/adidas-launch-parley-for-the-oceans-collection

Credits: Hanrun paper และ Designboom

สาระทั่วไป