เสื้อผ้ากีฬา x รักษ์โลก “ซับลิเมชั่น” พร้อมเป็นทางเลือก?
ในวงการซับลิเมชั่น หากใครที่คลุกคลีกันมาสักพักหรือทำธุรกิจมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของ “ซับลิเมชั่น” น่าจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการพิมพ์แบบซับลิเมชั่นทำงานได้ดีกับเส้นใยสังเคราะห์อย่างโพลีเอสเตอร์เท่านั้น แต่ตัวของโพลีเอสเตอร์เองไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร (แม้แต่วัสดุที่ทำจากขวดน้ำรีไซเคิลก็ตาม) และหาก เสื้อผ้ากีฬา ที่ทำจากเส้นใยเหล่านี้ไม่ถูกฝังกลบ สุดท้ายก็มันก็จะไปจบลงที่รูปแบบไมโครพลาสติก ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ส่งเสริมการ “รักษ์โลก” เท่าไหร่นัก และทุกวันนี้ sustain product ก็กำลังเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังมุ่งมั่นปลุกกระแสให้ชาวโลกตื่นตัวกันมากขึ้นในทุกวันนี้
ยิ่งเป็นแบรนด์ “ยักษ์ใหญ่” ยิ่งต้องใส่ใจเรื่อง “รักษ์โลก”
แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง อาดิดาส พวกเขาดินหน้าลุยแคมเปญ “รักษ์โลก” มาหลายปีแล้ว โดยมีการร่วมมือกับ พาร์ลีย์ ฟอร์ ดิ โอเชียนส์ (Parley for the Oceans) ซึ่งไม่ใช่แค่ไลน์ผลิตเสื้อฟุตบอลเท่านั้น เพราะไลน์แฟชั่นอย่าง อาดิดาส ออริจินอลส์ ก็ยังเดินหน้าสานต่อแคมเปญนี้อย่างต่อเนื่อง เพิ่งจะเปิดตัวเสือผ้าภายใต้แคมเปญ ไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเทคนิคที่น่าสนใจนั้นอยู่ที่ “เสื้อบอล” เสียมากกว่า
ตัวอย่างแคมเปญ อาดิดาส x พาร์ลีย์ ” เสื้อผ้ากีฬา รักษ์โลก”
เสื้อบอลที่เป็นแคมเปญ อาดิดาส x พาร์ลีย์ ชุดแข่งของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังอย่าง เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ทั้งสองทีมนั้นถูกออกแบบด้วยสีประจำสโมสรล้วนทั้งชุด ส่วนตัวโลโก้สโมสรนั้นทำจากพลาสติกจากมหาสมุทร และลายพิมพ์อันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของแบรนด์ โดยทั้งชุดนี้นั้นเป็นสร้างขึ้นจากมลพิษพลาสติกที่อยู่ในทะเล ก่อนถูกนำมาผ่านกระบวนการทำความสะอาดแบบ “พาร์ลีย์”
นอกจากจะใช้วัสดุที่รักโลกแบบสุด ๆ แคมเปญนี้ยังสะท้อนเรื่องราวและคงความเป็นเอกลักษณ์ของเสื้อแข่งฟุตบอลเอาไว้ ผสมผสานกับกลิ่นอายความมุ่งมั่นของ พาร์ลีย์ ที่มีต่อมหาสมุทร แม้ว่าตัวโลโก้สโมสรของ เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค จะเห็นแค่เพียงลาง ๆ แต่ความตั้งใจนี้ก็เป็นข้อตกลงที่ทาง อาดิดาส กับ พาร์ลีย์ อยากจะให้ชุดแข่งจากแคมเปญนี้มีความยั่งยืน ใช้ได้นานที่สุด และไม่กลับมาเป็นมลพิษของโลกแบบง่าย ๆ นั่นเอง
แล้วงานเทคนิคซับลิเมชั่นบน เสื้อผ้ากีฬา “รักษ์โลก” แค่ไหน?
แวะไปพูดถึงเรื่องอื่นเสียยืดยาว แต่ประเด็นสำคัญที่เราจะพูดถึงก็ยังเป็นเรื่องของ “ซับลิเมชั่น” ซึ่งจริง ๆ แล้วเชื่อว่าแคมเปญ อาดิดาส x พาร์ลีย์ นั้นอาจจะใช้เทคนิคขั้นพื้นฐานในการสกรีนลายเสื้อผ้ากีฬา ด้วยเทคนี้นั่นแหละ แต่การเป็นแบรนด์ใหญ่ก็มักจะใช้ชื่อเทคนิคเฉพาะเพื่อสร้างแบรนดิ้งให้เป็นเทคโนโลยีของบริษัท เพราะเอาเข้าจริงการใช้กระบวนการซับลิเมชั่นก็ทำให้คุณเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าการสกรีนแบบดั้งเดิมมากกมายแล้ว ด้วยเทคนิคซับลิเมชั่น คุณจะใช้น้ำหมึกเพียง 5 มิลลิลิตร เท่านั้น ต่ออัตราส่วนสำหรับการย้อมเสื้อผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 1 กิโลกรัม ซึ่งต่างจากการย้อมแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้น้ำหมึกมากถึง 200 ลิตร สำหรับเสื้อผ้าในปริมาณที่เท่ากัน!
นอกจากเรื่องของตัวหมึกเองแล้ว ตลอดกระบวนการคุณยังไม่จำเป็นต้องใช้สารอันตรายใด ๆ ลงบนผ้าเหมือนกับการย้อมแบบเก่า แถมการใช้เทคนิคซับลิเมชั่นยังแทรกซึมเส้นใยในระดับเซลล์ ไม่ถูกชะล้างออกไปง่าย ให้ผลดีกว่าการย้อมแบบเดิม ๆ อย่างมาก
เริ่มธุรกิจและรักษ์โลกไปพร้อมกันได้ด้วยเทคนิคซับลิเมชั่น
ในส่วนของกระบวนการสกรีนเสื้อด้วยเทคนิคซับลิเมชั่น รวมถึงการทำลวดลายด้วยเทคนิคนี้บนวัสดุแบบอื่นเพื่อเป็นสินค้าต่าง ๆ เรามีบทความแนะนำมากมายให้เลือกอ่าน และหากคุณกำลังมีแผนที่จะทำธุรกิจ อย่าง “เสื้อผ้ากีฬา” ที่ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าการใช้เทคนิคพิมพ์ลายแบบซับลิเมชั่นกำลังมาแรงแบบสุด ๆ เป็น “ตัวตึง” แห่งวงการทำเสื้อผ้ากีฬาเลยก็ว่าได้ แถมนอกจากจะทำง่ายและสะดวกกว่าการสกรีนเฟลกซ์แบบดั้งเดิมแล้วยังรักษ์โลกอีกต่างหาก ลองศึกษากระบวนการซับลิเมชั่นดู บางทีอาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับโลกปัจจุบันนี้!
Cover Image : https://www.soccerbible.com/performance/football-apparel/2016/11/adidas-launch-parley-for-the-oceans-collection
Credits: Hanrun paper และ Designboom